สถานที่เที่ยวที่ 2 อ่าวฉลอง

อ่าวฉลอง





“อ่าวหลอง” คือ ชื่อเรียกอ่าวฉลองของคนภูเก็ต 
หากมิใช่คนภูเก็ตถ้าพูดถึงอ่าวก็คงจินตนาการถึง ทะเลมีส่วนโค้ง เว้าเข้ามาในแผ่นดิน เป็นอ่าวขนาดใหญ่  มีคนมากมายมาเล่นน้ำทะเลอย่างสนุกสนานยามวันว่างหยุดพักผ่อน มีหาดทรายขาวสะอาดดูแล้วน่าเดินเล่นยิ่งนัก  รอบๆ จะมีต้นมะพร้าวสูงใหญ่ที่พลิ้วไหวตามแรงลมทะเลและมีเสียงเสียดสีของใบมะพร้าวฟังดูแล้วน่าฮัศจรรย์ยิ่งนัก

     จากจินตนาการดังกล่าว อาจจะใช่แต่คงเป็นภาพอ่าวฉลองในอดีตประมาณ 15-20 ปี ซึ่งในอดีตอ่าวฉลองภูเก็ตเป็นอ่าวที่สงบและมีสะพานไม้เป็นจุดเด่นที่ทอดยาวไปในทะเล เพื่อให้ชาวบ้านที่ประกอบอาชีพประมงได้ใช้ประโยชน์อย่างเช่น จอดเรือหางยาวของชาวประมงที่หาปลา เพื่อขึ้นปลาไปขายในตลาด ใช้สำหรับเรือเดินทางไปท่องเที่ยวเกาะแก่งต่างๆ เป็นต้น

     หาดทรายบริเวณรอบอ่าวฉลองก็มีความสวยงาม มีเด็กๆที่อาศัยอยู่บริเวณหน้าหาดฉลองลงมาวิ่งเล่นจับปูลม เล่นน้ำทะเลอย่างสนุกสนาน  พื้นที่โดยรอบอ่าวฉลองมีชุมชนของชาวประมงอาศัยอยู่ ซึ่งสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่เป็นกันเองเพราะเป็นหมู่บ้านขนาดเล็ก  เมื่อมีการจัดงานชาวบ้านละแวกนั้นจะมาช่วยกันคนละไม้คนละมือจนงานสำเร็จลุล่วงไปทุกงาน

     สำหรับการเดินทางเข้ามาสู่อ่าวฉลองนั้น มีถนนแยกตัวออกมาจากวงเวียนห้าแยก ซึ่งสองข้างทางนั้นจะมีต้นมะพร้าวเรียงรายและมีบ้านคนอยู่ไม่กี่หลังคาเรือนทำให้ผู้คนที่เดินทางมาสู่อ่าวฉลองพบกับความรู้สึกที่สงบ เหมาะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจในวันว่างเป็นที่สุด  แต่บรรยากาศเหล่านี้คงไม่หวนกลับมาให้สัมผัสอีกแล้ว เนื่องจากภูเก็ตเริ่มมีการพัฒนาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ต้องการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้หลั่งไหลเข้ามาท่องเที่ยวภูเก็ต ทางภาครัฐจึงได้มีโครงการพัฒนาพื้นที่ในจังหวัดภูเก็ต เพื่อรองรับการท่องเที่ยวซึ่งในการพัฒนานี้อ่าวฉลองเป็นพื้นที่หนึ่งที่ทางภาครัฐได้เข้ามาจัดสรรในการพัฒนาครั้งนี้ด้วย

     เริ่มแรกภาครัฐได้มีโครงการที่จะก่อสร้างสะพานท่าเรือที่มีขนาดใหญ่และได้มาตรฐาน โครงการนี้เองทำให้ชาวบ้านประมงที่อาศัยอยู่บริเวณหน้าหาดถูกขับไล่ที่อยู่เพื่อที่จะใช้พื้นที่เหล่านี้เป็นลานจอดรถและปรับปรุงทัศนียภาพให้ดียิ่งขึ้น เมื่อสะพานคอนกรีตที่สร้างใหม่แล้วเสร็จก็ทำให้อ่าวฉลองที่เคยเงียบสงบกลับกลายเป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาเยี่ยมเยียนทุกวี่วัน เป็นผลเนื่องมาจากสะพานที่สร้างใหม่มีจุดประสงค์หลักเพื่อใช้รองรับให้เรือนำเที่ยวเข้ามาเทียบท่าเพื่อรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้ใช้ท่าเทียบเรือแห่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการเดินทางไปสู่เกาะแก่งต่างๆ ด้วยเหตุนี้เมื่อวันเวลาผ่านไปก็ทำธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเฟื่องฟูมากยิ่งขึ้น วิถีชาวบ้านที่ต้องหาปลาก็แปรเปลี่ยนไปเป็นลูกจ้างให้แก่บริษัทเรือนำเที่ยว บางส่วนก็เปิดร้านขายอาหารเครื่องดื่มเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ซึ่งเมื่อมองอย่าผิวเผินแล้วนั้นก็เห็นได้ว่าชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้มีรายได้ที่เพิ่มขึ้นทุกวัน เพียงเท่านี้ยังไม่พอเมื่ออ่าวฉลองมีนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้นแหล่งนายทุนที่หัวใสก็หาช่องทางในการประกอบอาชีพต่างๆ เพื่อใช้ทะเลภูเก็ตและท่าเทียบเรืออ่าวฉลองในการหารายได้จึงเกิดธุรกิจมากมายมาย เช่น ธุรกิจล่องเรือสำราญเพื่อชมพระอาทิตย์ตกดินบริเวณแหลมพรมเทพ ซึ่งธุรกิจนี้ก็จะต้องใช้ท่าเทียบเรืออ่าวฉลองแห่งนี้เป็นที่จอดรับส่งนักท่องเที่ยว ทำให้ธุรกิจนี้มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจอย่างมากจนทำให้เกิดเรือสำราญเพิ่มขึ้นอีก แต่หลังจากนั้นไม่นาน เกิดโรคซาร์ส โรคไข้หวัดนก และเหตุการณ์สึนามิ ทำให้ธุรกิจเรือสำราญต้องปิดกิจการลง


     แต่ก็ไม่มีผลกระทบต่ออ่าวฉลองเพราะนักท่องเที่ยวก็ยังหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวมากยิ่งขึ้นซึ่งยิ่งนับวันก็มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจึงทำให้ธุรกิจจำพวกบาร์เบียร์เกิดขึ้นในพื้นที่แห่งนี้ หากมองดูแล้วก็ไม่แตกต่างกับหาดกะตะ กะรน หรือหาดป่าตองที่มีธุรกิจเหล่านี้เกิดขึ้นก่อนแล้ว

     หากมองย้อนกลับไป การพัฒนาภูเก็ตให้เป็นเมืองท่องเที่ยวนั้นมีข้อดีอยู่บ้าง นั่นคือทำให้คนภูเก็ตได้มีรายได้ที่เพิ่มขึ้น แต่ก็ต้องแลกกับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ซึ่งอาจจะพูดได้ว่าบางพื้นที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากจนจำไม่ได้เสียแล้วว่าอดีตนั้นเป็นเช่นไร  ลืมไปแล้วว่าบรรยากาศที่เงียบสงบของอ่าวฉลองนั้นเป็นอย่างไร

     หากถามเด็กๆ ว่าภูเก็ตเป็นอย่างไร เด็กสมัยใหม่คงจะอธิบายว่าภูเก็ตเป็นเมืองที่มีสีสันและมีนักท่องเที่ยวมากมายหลากหลายเชื้อชาติ และเชื่อได้เลยว่าคงไม่มีเด็กคนไหนที่จะตอบแตกต่างออกไปจากนี้เพราะภาพชายหาดที่เงียบสงบ ชายหาดปราศจากเก้าอี้ผ้าใบและร่มหลากสีนั้นได้กลายเป็นนิยายไว้เล่าขานให้ลูกหลานฟัง

     ฉะนั้นหากย้อนเวลาได้คงมีบางคนอยากย้อนเวลาให้ภูเก็ตกลับไปเป็นเช่นเดิมเหมือนดั่งเช่นวันก่อน มีหาดทราย น้ำทะเลให้เล่น มีปูลม หอยทราย หอยหลอดให้หา มีต้นมะพร้าวที่สูงใหญ่ มีเสียงลมที่สลับกับเสียงเสียดสีของใบมะพร้าวให้ได้ยินอย่างสบายอารมณ์เมื่อยามนั่งชมพระอาทิตย์ตกดิน

     สุดท้ายสิ่งที่กล่าวมาคงเป็นเพียงฝันหากถ้าทุกวันนี้การพัฒนาเดินหน้าไปอย่างไม่สนใจวิถีชีวิตของชาวบ้าน ไม่ฟังความคิดเห็นของคนกลุ่มน้อย เราเองก็คงอาจจะเห็นอนาคตของอ่าวฉลองมีทั้งมารีน่าไว้สำหรับต้อนรับผู้มีอันจะกินจากเมืองนอก

     ในขณะที่ผู้เขียนได้เขียนเรื่องนี้อ่าวฉลองก็กำลังดำเนินการก่อสร้างมารีน่าเพื่อการกีฬาทางน้ำซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการขององค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตซึ่งร่วมมือกับองค์การบริหารส่วนตำบลฉลองในการริเริ่มโครงการนี้  ซึ่งไม่แน่ว่าเมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จมารีน่าที่ว่ากันว่าใช้เพื่อการกีฬาทางน้ำนั้นจะผันตัวเองไปเป็นมารีน่าเพื่อธุรกิจการท่องเที่ยวหรือไม่ และถ้าอนาคต 10 ปีข้างหน้าราคาเครื่องบินส่วนตัวมีราคาที่ถูกลงหรือพวกมหาเศรษฐีที่มีกำลังทรัพย์ในการหาซื้อเพื่อสนองตอบความต้องการในการพักผ่อน...อ่าวฉลองคงหนีไม่พ้นโครงการก่อสร้างสนามบินน้ำอย่างแน่นอนเพราะอ่าวฉลองเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมอย่างยิ่ง

รายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยว
          ความโดดเด่นของอ่าวฉลองแห่งนี้ อาจไม่ได้อยู่ที่น้ำทะเลใสหรือชายหาดขาว แต่กลับเป็นท่าเรืออันเป็นจุดจอดเรือรับส่งนักท่องเที่ยวที่ต้องการข้ามไปเที่ยวเกาะต่าง ๆ รายรอบภูเก็ต เช่น เกาะเฮ เกาะราชาใหญ่ บริเวณนี้จึงค่อนข้างพลุกพล่านไปด้วยผู้คนที่พากันเดินขวักไขว่เพื่อรอขึ้นเรือ และบริเวณอ่าวฉลองยังมีร้านค้าและร้านอาหารสำหรับรองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย นอกจากนี้อ่าวฉลองยังเป็นจุดจอดเรือยอช์ตหลายลำที่พากันมาหามุมปลอดคลื่นลมจากบริเวณนี้

ที่ตั้ง : อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ต 11 กิโลเมตร






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น